วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

หนทางการรักษาโรคมะเร็ง

โรคมะเร็งจัดเป็นโรคกรรม โรคเวร สาเหตุของโรคมะเร็งมีหลายอย่าง เช่น การโกงคนอื่นหรือการโกงงบประมาณแผ่นดิน, โรคมะเ็ร็งที่เกิดจากพันธุกรรม (กรรมที่พ่อแม่ทำไว้ สามารถตกทอดถึงลุกหลานได้ ดั่งกรรมะพันธุ), การบริโภคอาหารที่เป็นบ่อเกิดของมะเร็ง ฯลฯ

หนทางการรักษาโรคมะเร็ง มีหลายวิธี เช่น

1.การไปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี มีผู้คนที่เป็นโรคมะเร็ง จำนวนหลายท่านที่ไปปฏิบัติธรรม ที่วัดอัมพวัน แล้วหายจากโรคมะเร็ง รายละเอียดไปอ่านได้ในหนังสือกฎแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ (สามารถดาวส์โหลดไปอ่านได้เลย) คลิกที่ลิ้งค์นี้ :

2.ไปรักษากับอ.นงนุช รักษาโรคด้วยญาณหลวงปู่เทพโลกอุดร รายละเอียดคลิกอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ : http://powerful-health.blogspot.com/2013/10/blog-post.html 

3.ไปรักษากับแม่หมอเทวดา ท่านจะบอกว่า (ท่านจะดูด้วยญาณของท่านเอง) ท่านที่เข้ามาขอรับการรักษา เป็นโรคอะไร มีสาเหตุมาจากอะไร รายละเอียดเพิ่มเติมไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ : http://powerful-health.blogspot.com/2013/04/blog-post_21.html

4.การขอเมตตาจากครูบาอาจารย์ อาทิเช่น การไปขอเมตตาบารมีกับหลวงพ่อดำ อายธัมโม รายละเอียดเพิ่มเติมมีอยู่ในหนังสือ "อ่านกรรม (เปิดทางบุญ แก้กรรม ทำให้รวย หากโลกนี้ขอพรได้จริง คงไม่มีใครจน)

5.การขอความช่วยเหลือจาก คุณหวังช่วย ไม่หวังดัง เบอร์โทร 089-1289304 เข้าดู Facebook : อ.หวังช่วย รักษามะเร็ง  

6.การขอความเมตตากับหลวงพ่อจีราวัฒน์ วัดถ้ำรูปลับแลนคร ติดต่อหลวงพ่อได้ที่เบอร์ 081-1979177

7.การรักษาโรคมะเร็ง ตำหรับของหลวงพ่อจรัญ คือ นำลูกใต้ใบทั้ง 5 กับต้นไมยราบทั้ง 5 มาต้มกินต่างน้ำ (ทั้ง 5 หมายถึง ราก, ต้น, ใบ, ดอก, และผล)

8. หมั่นสวดพระคาถา "อุณหิสสะวิชะยะคาถา" มีพุทธานุภาพมากในด้านของการมีอายุยืนและยังทำให้สุขภาพแข็งแรง (มีอยู่ในคู่มือเปลี่ยนดวง แก้ไขกรรมด้วยตนเอง) อยู่ที่หน้า 90, ดาวส์โหลด คู่มือเปลี่ยนดวง แก้ไขกรรมด้วยตนเอง 

9.หมั่นสวดพระคาถาโอสถปริตร (พระคาถาสักกัตวา) : http://powerful-health.blogspot.com/2013/05/blog-post_27.html

10.ทานยาน้ำพลูคาวหรือคาวตอง ส่วนหญ้าปักกิ่งไม่แนะนำ เพราะไม่ค่อยเห็นผล

11.ควรรับประทานอาหารที่ไม่มีน้ำตาลหรือไม่หวาน เพราะมะเร็งชอบของหวาน

12.ควรทานผักหรือผลไม้ให้มาก เช่น แอปเปิ้ล แอพริคอท บาร์เล่ย์ ผลไม้รสเปรี้ยว (หรือรับประทานน้ำผักหรือน้ำผลไม้) แครอท มะเขือเทศ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง เป็นต้น

13.ไม่เครียด เพราะเวลาเครียดแล้วมะร็งจะแบ่งตัวเพิ่มขี้นง่าย

14. ส่วนการผ่าตัดหรือการทำคีโม ต้องพิจารณาด้วยตนเอง ควรไปสืบค้นข้อมูลเอง ว่าการผ่าตัดหรือทำคีโม กับการรักษาแบบชีวะจิตหรือยาแผนโบราณ แบบไหนที่ดีกว่า

** 15.อีกหนทางหนึ่งของคนป่วยเป็นโรคมะเร็ง ที่มีความหวังเหลือไม่มาก 
"เมื่อหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา  มีญาติของผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้ายมาอัญเชิญไปอวยพรให้คนป่วยถึงห้องพิเศษที่โรงพยาบาลสีคิ้ว   องค์ญาณก็ไป  แล้วบอกให้ญาตินำบายศรีไปถวายที่ตำหนัก  เขาก็ทำตาม   เดี๋ยวนี้คนป่วยลุกเดินเหินได้  กินข้าวกินน้ำได้   อาการเจ็บปวดก็ทุเลาเบาบางลงมาก  แพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่บ้านแล้ว  พวกเขาจะพากันมากราบองค์พ่ออีกในไม่กี่วันนี้
               
อีกรายหนึ่งเป็นโรคหัวใจโต   เมื่อ 3 เดือนก่อนก็เข้าหองไอซียู  ทางญาติไปขอพรจากพระองค์ท่าน  ท่านก็ต่ออายุให้  จนสบายดี ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้าน   แต่ท่านว่าเมื่อถึงวันไหว้ครูใหญ่ ( ๑๕ มีนาคม) ให้ไปหาท่านที่ตำหนัก   คนป่วยไม่ไป  องค์พ่อจิตรา (ท้าวยมราช) ลงมาบอกว่า กูนั่งรอมันใต้ต้นขนุน มันก็ไม่ยอมมาหาดุจที่มันรับปาก   ท่านก็ไม่พอใจ      เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา  คน ๆ นี้ก็ล้มป่วยลงอีก และหนักกว่าเดิม   ทั้งโรคหัวใจโต  ม้ามโต  ตับโต แพทย์นำเข้าห้องผ่าตัด  ลงมีดลึกไปนิดเดียวไปกรีดเอาตับเข้า  เพราะตับก็โตขึ้นเช่นเดียวกัน   ปรากฏเลือดไหลทะลักไม่หยุด   พวกญาติพี่น้องระดมกันมาให้เลือดเพิ่ม  ให้เลือดเข้าไปก็ไหลออกจากปากและจมูก  ดูท่าจะจบชีวิตเสียในคืนนั้น   พี่สาวซึ่งสนิทกับองค์ญาณจึงไปที่ตำหนัก  ขอพรองค์พ่อ ๑๖ และองค์พ่อจิตรา   องค์พ่อจิตราลงประทับร่างองค์ญาณ   บอกว่ามันตระบัดสัตย์  มึงจะให้กูช่วยมันหรือ   พี่สาวคนป่วยก็อ้อนวอนขอความเมตตาจากท่าน    ท่านว่า กูเห็นแก่มึงที่ดีกับกูมาตลอด  รับใช้กูด้วยความซื่อสัตย์  กูจะให้โอกาสอีกสักครั้ง   มึงจะไม่ให้มันตายใช่มั้ย    พี่สาวคนป่วยก็รับตามท่านถาม    ท่านว่า กูจะให้มันอยู่ต่อไปอีก
               
เชื่อมั้ยครับ  ถึงวันนี้น่ากลัวผ่านมาประมาณ 5 อาทิตย์แล้ว   คนป่วยคนนี้ยังไม่ตาย  แต่นอนทนทรมานอยู่ในโรงพยาบาล   ทั้งหมอและนางพยาบาลต่างแปลกใจไปตาม ๆ กันว่าสภาพแบบนี้ทำไมจึงมีชีวิตอยู่ได้  
               
ความจริงเรื่องนี้ยืดยาวมาก  มีอดีตเป็นมาที่เกี่ยวพันกับองค์ญาณและองค์พ่อเหล็กไหล   ไม่สามารถนำมาขีดเขียนได้     ขอเล่าเพียงให้ทราบว่า  ท่านจะให้ใครตายก็ได้   จะให้ใครอยู่ก็ได้   จะทำให้หายป่วยก็ได้   ทำให้ทุกข์ทรมานสมใจท่านก็ทำได้  บางเรื่องที่เกี่ยวพันกับองค์พ่อเหล็กไหล  แม้องค์พ่อ ๑๖ ต้องการช่วยเหลือให้หายป่วยก็ไม่สามารถขัดความต้องการขององค์พ่อเหล็กไหล หรือพยายมราชได้   องค์พ่อ ๑๖ (ท้าวเวสวัณ)ถึงกับตรัสว่า ท้าวกุเวรนั้นเป็นเทพที่ทรงอิทธิฤทธิ์มาก  บางเรื่องพ่อก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องของท่าน  



วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อ.นงนุช รักษาทุกโรคด้วยพลังจิต


หลวงปู่เทพโลกอุดร รักษาทุกโรคด้วยพลังสมาธิจิต


รักษาโรคด้วยพลังจิต,รักษามะเร็ง


อ.นงนุช สุระเสน
Tel. 089-693-3351 E-mail : pu_002@hotmail.com


ผมมีข่าวดีที่จะเล่าให้ฟัง
วันหนึ่งผมมีโอกาสไปทำบุญที่วัดปฏิบัติธรรม (สายป่าแห่งหนึ่ง) ได้พบเห็นการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคต่าง ๆ ด้วยพลังสมาธิจิต ผมจึงสนใจว่าเป็นใครมาจากไหนจึงเฝ้าดูอยู่หลายวัน และได้ความว่าหลวงปู่เทพโลกอุดรท่านได้ให้ญาณบารมีในการช่วยเหลือคน โดยการรักษาโรคทุกโรคให้มวลมนุษย์ อาจารย์นงนุช สุระเสน ปัจจุบันรับราชการเป็นผู้บริหารด้านการศึกษา ในจังหวัดนนทบุรี การศึกษาท่านระดับปริญญาเอก ใ้หช่วยเหลือมวลมนุษย์และสัตว์โลกด้วยพลังสมาธิจิต ผมจึงถ่ายภาพและสัมภาษณ์ผู้ที่ไปรับการรักษามาดังนี้


  
1. ลุงวิเชียรเป็นผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่หลอดคอและลามลงมาที่ปอดซึ่งได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกำแพงแสนเป็นเวลาหลายปี จนกระทั้งทางโรงพยาบาลให้ลุงวิเชียรกลับบ้านซึ่งตอนนั้นอาการหนักมาก ญาติมีความประสงค์จะให้มาเสียชีวิตทีบ้านพักและทุกคนต่างทำใจคงเป็นวาระสุดท้ายของลุงวิเชียร แต่เป็นโชคดีของลุงวิเชียรซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้กับวัดแห่งนั้น จึงไปรักษากับหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ฯ รักษาลุงวิเชียรประมาณ 15 วัน อาการดีขึ้นตามลำดับ และอีก 1 เดือนต่อมา ลุงวิเชียรได้ไปโรงพยาบาลและหมอได้ตรวจเชื้อมะเร็ง ปรากฏว่าไม่พบเชื้อมะเร็งอยู่ในร่างกายของลุงวิเชียร

2. คุณโสภา ลอยหา รับราชการอยู่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ป่วยเป็นโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชลประทานมาหลายปีจนกระทั้งแพทย์ที่รับการรักษาแนะนำให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าเนื่องจากเกิดสภาวะคอพอกเพิ่มขึ้นและเริ่มมีอาการตาโปน ต่อมเริ่มทำงานแปรปรวน เริ่มมีอาการทางจิตเกิดความเครียดและวิตกกังวลบางครั้งเคยคิดฆ่าตัวตาย แต่โชคดีได้มีโอกาสให้หลวงปู่เทพโลกอุดรได้รับการรักษา หลวงปู่ฯรักษาอยู่ประมาณ 15 วัน และอีก 1 เดือนต่อมาได้ไปให้แพทย์ที่โรงพยาบาลตรวจ ผลการตรวจปรากฏว่าสภาวะของเลือดอยู่ในระดับปกติ อาการคอพอก ตาโปน เข้าสู่สภาวะเดิม และคุณโสภา ฝากบอกอีกว่า หลวงปู่ัยังให้สมุนไพรอันวิเศษรักษาสิวฝ้าและไม่ให้ผมงอก ซึ่งได้ผลอย่างดีเยี่ยมไว้อีกด้วย 


3. แม่ชีดา บวชอยู่ที่วัดไร่แตงทอง(หลวงปู่หลิว) เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต แขนและขาด้านซ้ายไม่มีแรงและได้มาให้หลวงปู่รักษาประมาณ 1 เดือน แขนและขาเริ่มมีแรง และเริ่มใช้งานได้ประมาณ 70 เปอร์เซ็น ของแขนขาด้านปกติ

4. เด็กหญิงแอนพิการซ้ำซ้อน พูดไม่ได้ ไม่ได้ยินเสียง จะอยู่ไม่ินิ่งอยู่ตลอดเวลา ทำร้ายพ่อแม่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ได้มีโอกาสให้หลวงปู่รักษาประมาณ 1 สัปดาห์ มีอาการสงบลงกว่าเดิมประมาณ 50 เปอร์เซ็น สามารถเปล่งเสียงได้ชัดเจนขึ้น

5. ร.ต.ต. อำนาจ ป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโต แพทย์นัดอีก 2 เดือนผ่าัตัด และได้ให้หลวงปู่รักษาประมาณ 1 เดือน แล้วไปให้แพทยคนเดิมตรวจ ผลปรากฏว่า ต่อมลูกหมาก มีอาการปกติ ไม่ต้องผ่าตัด

6. นายศิลป์ สูบบุรี่วันละ 2 ซอง เป็นเวลาหลายสิบปี เจ้าตัวต้องการเลิกสูบบุหรี่ ได้มาหาหลวงปู่ใ้ห้ช่วยรักษา หลวงปู่ได้รักษาอยู่ 3 สัปดาห์ นายศิลป์เลิกบุหรี่ได้โดยเด็ดขาด

7. อ.สังวาลย์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแ่ห่งหนึ่งใน จังหวัดลพบุรี ติดสุรา จะต้องดื่มทุกวัน วันละ 1 กลม มาเป็นเวลา หลายสิบปี ได้ให้หลวงปู่รักษา อยู่ประมาณ 1 เดือน และสามารเลิกดื่มสุราได้โดยเด็ดขาด


และ อ.นงนุชบอกว่า หลวงปู่ให้ช่วยคนที่ติดสิ่งเสพติดทุกประเภท โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ต้องช่วยเหลือเป็นอันดับแรก ผู้ปกครองท่านใด ที่มีบุตรหลานติดสารเสพติด ติดเกมส์ ใ้หรีบพามารักษา


8.นางสมพงษ์ สอนสันต์ เป็นคนจังหวัดสุรินทร์ 
ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ค่าน้ำตาลอยู่ในระดับ 500 กว่า ตาเริ่มมองไม่เห็น นิ้วเท้าเน่าเปื่อย โรงพยาบาลที่รักษาอยุ่บอกว่าหากไม่ดีขึ้นจะต้องตัดทิ้ง ได้มารับการรักษา 5 ครั้ง อาการทางสายตาปกติ นิ้วเท้าที่เน่าเปื่อยหายปกติ ค่าน้ำตาลลดเหลือ 150 -200 เศษๆ แต่สิ่งที่ต้องปฏิบัติคือ ในการรักษาทางจิต โดยการสวดมนต์ ไหว้พระ เจริญกรรมฐาน ในการรักษาทางกาย โดยเลือกรับประทานอาหารที่เน้นผัก/ผลไม้ ลดอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ และออกกำลังกายให้เหมาะสมกับวัย
รวบรวมข้อมูลและถ่า่ยภาพโดย รศ.ดร.วิทยา ตรีโลเกศ นักวิจัย 



9. คุณธนวัต นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ปีที่ 2 มีอาการปวดแสบปวดร้อนบนใบหน้าอยู่ตลอดเวลา
ผิวหน้าหยาบกระด้างคล้ายกระดาษทรายเบอร์ 0 รักษาแพทย์แผนปัจจุบัน จากโรงพยาบาลชื่อดัง 3 ปีเศษ อาการดังกล่าวยังไม่หาย จนกระทั้งมีโอกาสได้มาพบหลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านเมตตารักษาให้ โดยบริกรรมน้ำมันมะพร้าวแล้วทาไปบนใบหน้าพร้อมกับเป่าทั่วบนใบหน้า 3 ครั้ง อาการปวดแสบปวดร้อนหายไปและผิวหน้าที่หยาบกระด้างกลับคืนสู่สภาพผิวปกติเหมือนคนทั่ว ๆ ไป 

10. ดร.ขัตติยา ด้วงสำราญ เป็นผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดนนทบุรี และเป็นอาจารย์พิเศษสอนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ท่านอาจารย์เล่าให้ฟังว่า ปกติท่านจะเป็นคนผิวแห้งมาก ๆ โดยเฉพาะใบหน้าจะดำกร้าน มีรอยเหี่ยวย่นมาก ถึงแม้จะใช้ครีมบำรุงยีห้อดัง ๆ ราคาแพง ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต่อมาได้พบกับ ดร.นงนุช โดยบังเอิญ ซึ่งจะต้องประชุมร่วมกัน (ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน) ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ดร.นงนุช ท่านเห็นใบหน้าดำกร้าน ท่านจึงให้น้ำสมุนไพรมา แต่ลืมถามว่าให้ไปทำอะไร เลยเอาไปล้างหน้าและอาบโดยผสมในอ่างน้ำ (กลิ่นหอม มาก ๆ ค่ะ) 1 เดือนผ่านไป ผิวที่เคยดำกร้านและเหี่ยวย่นกลับสู่ความเรียบเนียนและชุ่มชื่นอย่างอัศจรรย์ 

หากท่านสนใจ ลองปรึกษาท่านอาจารย์นงนุช สุระเสน ได้ที่เบอร์ 089-693-3351